สาเหตุ เจาะหูแล้วบวม เป็นหนองเกิดจากอะไร พร้อมวิธีดูแลรักษา

เจาะหูแล้วบวม

เจาะหูแล้วบวมไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างที่หลายคนคิด เพราะแม้การเจาะหูจะเป็นวิธีเสริมความสวยงามที่ได้รับความนิยม แต่ก็เป็นการสร้างบาดแผลบนร่างกายที่ต้องการการดูแลอย่างเหมาะสม หากละเลยหรือดูแลไม่ถูกวิธี อาจเกิดอาการ บวม แดง เจ็บ หรือเป็นหนอง ได้ ซึ่งมักเป็นผลจากการอักเสบหรือติดเชื้อบริเวณรูเจาะ สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับปัญหา เจาะหูแล้วบวมทำไงดี หรืออยากรู้ว่า เจาะหูแล้วบวมกี่วันหาย บทความนี้ได้รวบรวมคำตอบไว้อย่างครบถ้วน ทั้ง สาเหตุที่ทำให้หูบวมหลังเจาะ วิธีรักษาแผลเจาะหูให้หายเร็ว และแนวทาง ป้องกันไม่ให้แผลติดเชื้อซ้ำ ใครเพิ่งเจาะหูหรือมีแผลบวมอยู่ อย่าเลื่อนผ่าน!

สาเหตุของการที่เจาะหูแล้วบวม

1. ติดเชื้อจากแบคทีเรีย
การติดเชื้อเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของอาการ เจาะหูแล้วบวม โดยเฉพาะเมื่อแผลสัมผัสกับสิ่งสกปรก หรือเจาะด้วยอุปกรณ์ที่ไม่ได้ฆ่าเชื้อ เช่น การใช้ต่างหูที่ไม่สะอาด หรือจับแผลบ่อย ๆ ด้วยมือที่ไม่สะอาด เชื้อแบคทีเรียสามารถเข้าสู่บาดแผล ทำให้เกิดการอักเสบ บวม และอาจลุกลามจนเป็นหนอง

2. การแพ้สารในวัสดุที่ใช้ทำต่างหู
วัสดุบางชนิดที่ใช้ทำต่างหู เช่น นิกเกิล อาจกระตุ้นให้ร่างกายเกิดอาการแพ้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวบอบบาง อาการแพ้ต่างหูมักทำให้เกิดอาการบวม คัน แดง และในบางรายอาจอักเสบ ลุกลามกลายเป็นแผล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ เจาะหูแล้วบวมเป็นหนอง

3. การดูแลแผลไม่ถูกวิธี
หลายคนเจาะหูแล้วละเลยการดูแลแผล เช่น ไม่ทำความสะอาดเป็นประจำ หรือหมุนต่างหูด้วยมือที่ไม่สะอาด พฤติกรรมเหล่านี้อาจทำให้แผลระคายเคืองและอักเสบจนบวมได้ การดูแลแผลอย่างถูกวิธีเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงของอาการบวมจากการเจาะหู

4. การระคายเคืองจากสารเคมี
การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแผลที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือสารเคมีเข้มข้น อาจทำให้แผลแห้งและเกิดการระคายเคือง ส่งผลให้อักเสบและบวมตามมา และหากแผลเปิด อาจนำไปสู่การติดเชื้อและมีหนอง

5. การกดทับหรือการเสียดสี
การนอนทับหูข้างที่เพิ่งเจาะ หรือการใส่หมวกหรือหูฟังที่กดทับบริเวณที่เจาะหูเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้แผลเจาะหูเกิดการอักเสบ บวม และเป็นหนองได้ อาการบวมจากการกดทับมักจะเกิดขึ้นในข้างเดียว เช่น หูบวมข้างซ้าย หรือ ข้างขวา ขึ้นอยู่กับข้างที่ถูกกดทับบ่อยครั้ง

6. ทานอาหารที่กระตุ้นการอักเสบ
แม้แพทย์จะไม่ได้ห้ามอาหารเฉพาะเจาะจงหลังเจาะหู แต่บางคนอาจมีอาการแพ้เฉพาะตัว เช่น แพ้อาหารทะเล ของหมักดอง หรืออาหารรสจัด ซึ่งสามารถกระตุ้นการอักเสบของแผลได้ ทำให้แผลหายช้าหรือบวมมากยิ่งขึ้น หากไม่แน่ใจว่า คนเจาะหูห้ามกินอะไร สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบทความนี้ คนเพิ่งเจาะหูห้ามกินอะไร ถ้าไม่อยากให้หูอักเสบเป็นหนอง 

อาการที่พบบ่อยเมื่อเจาะหูแล้วบวมและมีหนอง

สำหรับผู้ที่เพิ่งเจาะหูแล้วมีอาการผิดปกติ ควรสังเกตให้ดีว่าอาการเหล่านั้นเป็นสัญญาณของการติดเชื้อหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อ เจาะหูแล้วบวมแดง เพราะอาการบางอย่างอาจพัฒนาไปสู่การอักเสบขั้นรุนแรงได้ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ซึ่งอาการที่บ่งบอกถึงการติดเชื้อหรืออักเสบดังต่อไปนี้:

  • หูบวมและแดง 

    หากบริเวณที่เจาะเริ่มมีอาการบวมและแดง อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นของการอักเสบ ติดเชื้อ

  • มีน้ำหนองไหลออกจากแผล 
    หนองที่ไหลออกจากแผลเป็นสัญญาณว่าการติดเชื้อกำลังเกิดขึ้นและจำเป็นต้องรับการรักษาทันที
  • อาการคันและปวดบริเวณแผล 
    อาการคันบริเวณแผลมักบ่งบอกถึงการแพ้ต่างหูหรือสารเคมี ส่วนอาการปวดอาจมาจากการอักเสบหรือแผลที่เริ่มติดเชื้อ ซึ่งใครที่มีอาการเหล่านี้ควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
  • แผลไม่หายภายในเวลาปกติ 

    โดยทั่วไป แผลเจาะหูจะเริ่มดีขึ้นภายใน 1–2 สัปดาห์ หากแผลยังบวมแดงหรือปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่อาจหมายถึงการติดเชื้อที่ต้องได้รับการรักษา

การรักษาและวิธีดูแลหูที่มีอาการบวม

หากคุณ เจาะหูแล้วบวม ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะอาการบวมอาจพัฒนาเป็นการติดเชื้อได้ง่าย การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นและลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน โดยเฉพาะในกรณีที่หลายคนสงสัยว่า เจาะหูแล้วติดเชื้อรักษายังไง หรือ เจาะหูแล้วบวมกินยาอะไรดี เรามีคำแนะนำดังนี้:

1. ทำความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอ
การทำความสะอาดแผลเจาะหูเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อ ควรทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือหรือน้ำยาฆ่าเชื้อที่ไม่มีแอลกอฮอล์ วันละ 1-2 ครั้ง โดยใช้สำลีสะอาดเช็ดบริเวณรอบ ๆ แผลเบา ๆ หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีเข้มข้นหรือแอลกอฮอล์ที่อาจทำให้แผลแห้งและระคายเคือง

2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสแผล
หากแผลสัมผัสกับมือที่ไม่สะอาด หรือมีการหมุนต่างหูบ่อยเกินไป ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อได้มากขึ้น ดังนั้นจึงควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนสัมผัสบริเวณที่เจาะหู

3. ใช้ยาทาฆ่าเชื้อเฉพาะจุด
หากแผลเริ่มมีอาการบวมแดงหรือเป็นหนอง สามารถใช้ยาปฏิชีวนะแบบทาภายนอก เช่น ยาฆ่าเชื้อคลอเฮกซิดีน (Chlorhexidine) หรือ ยาปฏิชีวนะชนิดทาเฉพาะที่ เพื่อช่วยลดการติดเชื้อได้ ยาปฏิชีวนะเหล่านี้สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบพบแพทย์

4. การใช้ยากินเพื่อลดอาการอักเสบ
สำหรับผู้ที่สงสัยว่า เจาะหูแล้วบวมกินยาอะไรดี ยาแก้อักเสบอย่างไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือพาราเซตามอลสามารถช่วยลดอาการปวดบวมได้ อย่างไรก็ตาม การใช้ยาเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ

5. เปลี่ยนต่างหูหากเกิดการแพ้
หากอาการบวมและคันเกิดจากการแพ้วัสดุต่างหู ควรเปลี่ยนไปใช้ต่างหูที่ทำจากวัสดุที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ เช่น ทองคำแท้ หรือ สเตนเลสเกรดการแพทย์ และหลีกเลี่ยงการใช้ต่างหูที่ทำจากนิกเกิล

วิธีป้องกันอาการบวมและติดเชื้อหลังเจาะหู

หลายคนที่ตัดสินใจเจาะหูอาจต้องเผชิญกับปัญหา เจาะหูแล้วบวม ซึ่งมักเกิดจากการติดเชื้อหรือการดูแลแผลไม่เหมาะสม หากไม่อยากให้หูบวม อักเสบ หรือเป็นหนอง การป้องกันตั้งแต่แรกถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม มาดูกันว่าเราจะสามารถป้องกันอาการดังกล่าวได้อย่างไรบ้าง

1. เลือกสถานที่เจาะหูที่สะอาดและปลอดภัย
การเลือกเจาะหูในสถานที่ที่ได้มาตรฐาน เช่น คลินิกหรือร้านที่ผ่านการรับรอง และใช้เครื่องมือที่ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง จะช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อที่อาจทำให้มีการอักเสบภายหลังได้มาก

2. ดูแลแผลอย่างถูกวิธี
หลังจากเจาะหู ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในการดูแลแผลอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการทำความสะอาดแผลทุกวัน และหลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลด้วยมือที่ไม่สะอาด เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่แผล

3. หลีกเลี่ยงการโดนน้ำในช่วงแรก
ในช่วง 2–3 วันแรกหลังเจาะหู ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำ เพราะความชื้นอาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการติดเชื้อ หากจำเป็นต้องสระผมหรืออาบน้ำ ควรใช้พลาสติกหรือผ้ากันน้ำปิดแผลให้มิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าสู่แผลและเสี่ยงต่อการติดเชื้อและถ้าคุณอยากทราบว่า หลังเจาะหูกี่วันสระผมได้ เรามีคำตอบให้คุณ

4. สังเกตอาการผิดปกติ
ถ้าพบว่าแผลเจาะหูเริ่มมีอาการผิดปกติ เช่น บวม แดง หรือมีหนอง ควรรีบพบแพทย์ทันที อย่าปล่อยให้ลุกลามจนยากต่อการรักษา เพราะการดูแลอย่างรวดเร็วจะช่วยให้แผลหายไวและลดโอกาสเกิดแทรกซ้อนได้

เจาะหูแล้วบวม กี่วันหาย ?

หนึ่งในคำถามยอดฮิตของคนที่เพิ่งเจาะหูคือ เจาะหูแล้วบวม กี่วันหาย ซึ่งคำตอบขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การดูแลแผลหลังเจาะ และสุขภาพร่างกายของแต่ละคน 

โดยทั่วไป หากไม่มีการติดเชื้อหรืออักเสบ อาการ เจาะหูแล้วบวม มักจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 7–14 วัน แต่หากมีอาการบวม แดง หรือเป็นหนองร่วมด้วย อาจต้องใช้เวลานานกว่านั้นในการฟื้นตัว และควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม เพราะการปล่อยให้แผลติดเชื้อโดยไม่ดูแล อาจทำให้อาการลุกลามและแผลหายช้าลงได้

สรุป

อาการเจาะหูแล้วบวม และเป็นหนอง มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย การแพ้วัสดุต่างหู หรือการดูแลแผลไม่ถูกวิธี หากไม่รีบรักษา อาจพัฒนาเป็นแผลอักเสบหรือเป็นหนองได้ การป้องกันและดูแลแผลหลังเจาะหูจึงเป็นสิ่งสำคัญ ควรทำความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลด้วยมือไม่สะอาด และหากพบอาการผิดปกติ เช่น บวม แดง หรือมีหนอง ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น