
สาระสำคัญ
- ฟิลเลอร่องแก้ม ช่วยลดเลือนริ้วรอยและสามารถช่วยเติมร่องน้ำหมาก ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และเรียบเนียนขึ้นอย่างชัดเจน
- ฟิลเลอร์ร่องแก้มเพิ่มความเต่งตึงและปรับรูปทรงใบหน้า การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มไม่เพียงช่วยลดริ้วรอย แต่ยังเพิ่มปริมาตรให้กับใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูสมดุลและเต็มอิ่มมากขึ้น
- ฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ใช้กรดไฮยาลูโรนิกมีความปลอดภัยสูง เพราะเป็นสารที่พบในร่างกายตามธรรมชาติ ย่อยสลายได้เองและมีความเสี่ยงต่อการแพ้น้อยเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ชนิดอื่น
- ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ขึ้นอยู่กับระดับร่องลึก การฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก โดยทั่วไปจะใช้ประมาณ 1-2 ซีซี/ต่อข้าง แพทย์จะปรับปริมาณฟิลเลอร์ตามความลึกของร่องแก้มเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- ยี่ห้อฟิลเลอร์ยอดนิยมสำหรับฉีดร่องแก้ม ยี่ห้อที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Juvederm, Restylane, Neuramis และ Belotero ซึ่งต่างมีคุณสมบัติที่ช่วยเติมเต็มร่องลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก คืออะไร?
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) เข้าไปในร่องลึกบริเวณแก้มเพื่อเพิ่มปริมาตรให้กับผิวหนังที่สูญเสียความเต่งตึงตามธรรมชาติ กรดไฮยาลูโรนิกเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์และมีหน้าที่สำคัญในการกักเก็บน้ำ ทำให้ผิวดูชุ่มชื้นและเต่งตึง อย่างไรก็ตามเมื่ออายุมากขึ้น ระดับกรดไฮยาลูโรนิกในร่างกายจะลดลง ส่งผลให้ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นและเกิดร่องลึกต่าง ๆ ขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณแก้ม การเติมกรดไฮยาลูโรนิกในบริเวณร่องแก้มร่องน้ำหมากจะช่วยลดเลือนริ้วรอยและทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นทันที
ฟิลเลอร์ชนิดกรดไฮยาลูโรนิกที่ใช้สำหรับฉีดร่องแก้มมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติในร่างกาย นอกจากนี้ ยังสามารถปรับแต่งรูปทรงและปริมาตรของฟิลเลอร์ได้ตามความต้องการของผู้เข้ารับบริการ และยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้น้อยเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ชนิดอื่น ๆ
ฟิลเลอร์ร่องแก้มช่วยอะไร?
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มมีประโยชน์หลายประการที่ช่วยฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาร่องน้ำหมาก บริเวณแก้มที่ทำให้หน้าดูหมองคล้ำและแก่กว่าวัย ฟิลเลอร์สามารถช่วยได้ในหลายด้าน เช่น
- ลดเลือนร่องลึก ร่องแก้มลึก และชัดเจนมักเป็นปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มร่องลึกบริเวณแก้มเติมเต็มร่องน้ำหมากลึกได้ ทำให้ผิวบริเวณนั้นดูเรียบเนียนขึ้นทันทีหลังการฉีด ส่งผลให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างชัดเจน
- ฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ การเติมฟิลเลอร์ในบริเวณร่องแก้มจะช่วยฟื้นฟูความเต่งตึงและยืดหยุ่นของผิว ทำให้หน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น โดยการเติมฟิลเลอร์จะช่วยเพิ่มปริมาตรให้กับใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูสมดุลและเต็มอิ่มมากขึ้น
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว กรดไฮยาลูโรนิกที่เป็นส่วนประกอบหลักของฟิลเลอร์มีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำ ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดดูชุ่มชื้นและสุขภาพดี นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ยังสามารถช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นของผิวในระยะยาว
- ปรับรูปทรงใบหน้า นอกจากการลดเลือนร่องลึกแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ยังสามารถช่วยปรับรูปทรงใบหน้าให้ดูสมดุลและกลมกลืนมากขึ้น การเติมฟิลเลอร์ในบริเวณร่องแก้มจะช่วยให้ใบหน้าดูเต็มและมีโครงสร้างที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งสามารถช่วยลดความรู้สึกของใบหน้าที่แบนหรือใบหน้าที่ขาดมิติ
- เสริมความมั่นใจ การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มสามารถช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่เข้ารับบริการได้อย่างมาก ร่องแก้มที่ดูตื้นขึ้นและใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ขึ้นจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นกับรูปลักษณ์ของตัวเองและมีความมั่นใจในการแสดงออกมากขึ้น
ฟิลเลอร์ร่องแก้มอันตรายไหม?
ฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ใช้กรดไฮยาลูโรนิกถือว่ามีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการแพ้น้อย นอกจากนี้ฟิลเลอร์ชนิดนี้สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตามความปลอดภัยขึ้นอยู่กับการเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคลินิกที่ได้มาตรฐาน หากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์หรือหมอกระเป๋า อาจเกิดความเสี่ยงในการฉีดผิดตำแหน่งหรือเกิดอาการข้างเคียง เช่น การอุดตันของเส้นเลือด ซึ่งต้องรับการแก้ไขโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ
ฉีดฟิลเลอร์ แก้ร่องน้ำหมากลึกได้ไหม?
การฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก สามารถช่วยแก้ไขร่องน้ำหมากลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มพื้นที่ที่ยุบตัวหรือมีร่องลึก ทำให้ผิวบริเวณร่องน้ำหมากดูเรียบเนียนและเต็มอิ่มขึ้น นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์ยังสามารถปรับรูปทรงใบหน้าให้ดูสมดุลมากขึ้น แพทย์จะประเมินระดับของร่องลึกและเลือกปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก อยู่ได้นานไหม?
ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มและร่องน้ำหมากสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับประเภทของฟิลเลอร์ที่ใช้และการดูแลหลังการฉีด ฟิลเลอร์ที่ทำจากกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) จะค่อยๆ สลายไปตามธรรมชาติ และอาจจำเป็นต้องฉีดเติมเพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น ฟิลเลอร์ยี่ห้อที่มีคุณภาพสูง เช่น Juvederm และ Restylane มักจะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า และผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก ร่องแก้มใช้กี่ cc ?
การตัดสินใจว่าจะใช้ฟิลเลอร์กี่ซีซี นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระดับของร่องลึก ลักษณะของใบหน้า และความต้องการของผู้เข้ารับบริการ โดยทั่วไปแล้วแพทย์จะเริ่มต้นการฉีดด้วยปริมาณประมาณ 1 – 2 cc ต่อข้าง ซึ่งเป็นปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการเติมเต็มร่องลึกในผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มในระดับปานกลาง
หากร่องแก้มลึกมากหรือหากผู้เข้ารับบริการต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว และความต้องการของแต่ละบุคคล การใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและปลอดภัย
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มบวมกี่วัน?
หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อาการบวมเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยทั่วไปอาการบวมจะเริ่มลดลงภายใน 1-2 วันแรก และจะหายไปทั้งหมดภายใน 3-7 วัน ขึ้นอยู่กับปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีดและการตอบสนองของร่างกายแต่ละคน ในช่วงนี้ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อน เช่น การอบซาวน่า หรือการอาบน้ำร้อน รวมถึงการออกกำลังกายหนัก เพื่อลดอาการบวมให้หายเร็วขึ้น
อาการหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
หลังจากฉีด filler ร่องแก้ม คุณอาจพบอาการบวมเล็กน้อยหรือรอยช้ำในบริเวณที่ฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์ นอกจากนี้อาจมีความรู้สึกตึงหรือไม่สบายเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด แต่ไม่มีอาการเจ็บมากการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ควรรักษาความสะอาด และหลีกเลี่ยงการนวดหรือกดบริเวณที่ฉีดในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก หากมีอาการบวมมากหรือผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
ฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อไหนดี?
การเลือกยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่จะใช้ในการ ฉีดร่องแก้ม เป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อผลลัพธ์และความปลอดภัย ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมใช้ ฉีดร่องน้ำหมาก และผ่านการรับรองจากองค์กรด้านความปลอดภัย มีหลากหลายยี่ห้อที่เหมาะสำหรับการฉีดร่องแก้ม ที่กำลังได้รับความนิยมในตอนนี้ ได้แก่
- Juvederm เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมระดับโลก มีคุณสมบัติในการเติมเต็มร่องลึกได้ดีและให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ Juvederm Voluma XC เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับการฉีดในบริเวณร่องแก้ม เนื่องจากมีความหนาแน่นสูงและสามารถอยู่ได้นานถึง 18 เดือน ฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้สามารถปรับแต่งรูปทรงได้อย่างละเอียดและให้ผลลัพธ์ที่ดูเรียบเนียนและสมดุล
- Restylane เป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและเพิ่มปริมาตรให้กับผิว Restylane Lyft เป็นรุ่นที่นิยมใช้ในการ ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เพราะมีความคงทนและให้ผลลัพธ์ที่ดี ฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้มีความเข้มข้นสูง ทำให้สามารถเติมเต็มร่องแก้มได้อย่างมีประสิทธิภาพและให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
- Neuramis เป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพสูงจากประเทศเกาหลี ฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้มีความเข้มข้นและความหนืดที่เหมาะสม ทำให้สามารถเติมเต็มร่องแก้มได้อย่างมีประสิทธิภาพ Neuramis Deep เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับการฉีดร่องแก้มเนื่องจากมีความเข้มข้นสูงและให้ผลลัพธ์ที่คงทน
- Belotero เป็นฟิลเลอร์ที่มีความละเอียดสูงและสามารถซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อได้ดี ฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้มีความละเอียดอ่อนและให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ Belotero Intense เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับการฉีดร่องแก้ม เนื่องจากมีความหนาแน่นสูงและสามารถเติมเต็มร่องแก้มได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้สามารถคงอยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน และมีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำที่ดี ทำให้ผิวดูชุ่มชื้นและสุขภาพดี
การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ควรพิจารณาตามความต้องการและลักษณะผิวของผู้ฉีด รวมถึงคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ แพทย์จะช่วยแนะนำยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย
ฟิลเลอร์ร่องแก้มราคาเท่าไร?
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคา อาจแตกต่างกันไปตามยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้และสถานพยาบาลที่ให้บริการ โดยทั่วไปแล้ว ราคาฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ในประเทศไทยจะอยู่ในช่วง 10,000 – 30,000 บาท ต่อซีซี ทั้งนี้ราคาดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ เช่น ประสบการณ์ของแพทย์ผู้ฉีด และโปรโมชันที่สถานพยาบาลจัดขึ้น

ข้อปฏิบัติตัว ก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- ศึกษาข้อมูลและเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์และเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์เพื่อความปลอดภัย
- หลีกเลี่ยงยาบางชนิดและอาหารเสริม หลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพริน, ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs), และวิตามินบางชนิด เช่น วิตามิน E, น้ำมันปลา, โสม, หรืออาหารเสริม อื่นๆ ที่อาจทำให้เลือดออกง่าย ควรหยุดใช้ยาหรืออาหารเสริมเหล่านี้อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนฉีดฟิลเลอร์
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เนื่องจากสิ่งเหล่านี้สามารถทำให้เลือดไหลเวียนมากขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำและบวม
- แจ้งประวัติการแพ้และการใช้ยา แจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติการแพ้ยา หรือการใช้ยาปัจจุบัน เพื่อให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
- พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก่อนวันฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ร่างกายมีสภาพที่ดีที่สุด
การดูแลหลังฉีด
- หลีกเลี่ยงการกดนวดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด ไม่ควรกด, นวด, หรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก งดการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงหลังการฉีด เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงในการบวมและช้ำ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนสูง งดการสัมผัสความร้อนสูง เช่น การอบซาวน่า, การอาบน้ำร้อน, หรือการโดนแสงแดดจัดในช่วง 48 ชั่วโมงหลังฉีด เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์แตกตัวและไม่คงรูป
- ดื่มน้ำมากๆ และดูแลผิวอย่างเหมาะสม การดื่มน้ำเพียงพอช่วยให้ฟิลเลอร์ดูดซับน้ำได้ดีขึ้นและทำให้ผิวดูเต่งตึง นอกจากนี้ ควรใช้ครีมบำรุงผิวที่เหมาะสมและหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง
- งดดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ต่อไป หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรงดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ต่อไปอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการอักเสบและรอยช้ำ
- ติดตามอาการและปรึกษาแพทย์ หากมีอาการบวม, รอยช้ำ, หรืออาการอื่นๆ ที่ไม่ปกติ ให้ติดตามอาการและปรึกษาแพทย์ทันที โดยทั่วไปอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่หากมีอาการรุนแรง ควรติดต่อแพทย์เพื่อรับการดูแล